ผู้เขียนพึ่งได้ทราบจากน้องชายว่าขณะนี้ นักศึกษาแพทย์ปี 3 มีการจัดตารางสอนแบบใหม่ คือเรียนครึ่งวันเช้า หลังจากนั้นจะหยุดเรียนในช่วงบ่าย เพื่อให้นักศึกษาไปอ่านหนังสือ หรือหาความรู้แบบอื่นๆ แล้ววันถัดไปก็ใช้ความรู้ที่ได้จากการศึกษาด้วยตนเองมาทำ KSA สรุปคือมีการบรรยายน้อยลง มีการเรียนรู้ด้วยตนเองมากขึ้น
แนวความคิดนี้เป็นแนวความคิดที่น่าสนใจ ผู้เขียนรู้สึกเห็นด้วย น่าจะทำให้นักศึกษาแพทย์ผ่อนคลายมากขึ้น เพราะมีการบรรยายน้อยลง อ่านหนังสือมากขึ้น และมีเวลาว่างมากขึ้น
แต่ถ้าผู้เขียนมองในมุมมองแบบนักปกครองไทย ก็คงจะได้แนวความคิดเช่นนี้
"ปล่อยให้นักศึกษาไปอ่านหนังสือเอง! เดี๋ยวพวกเด็กๆก็คงจะเอาเวลาไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ไม่เป็นโล้เป็นพายหรอก พวกนี้ชอบอยู่แล้ว เรื่องไม่ต้องเข้าเรียนน่ะ คงไม่มีใครมานั่งบ้าอ่านหนังสือเองหรอก เพื่อนๆไปเที่ยวกันหมดแล้วนี่ โอ๊ยการศึกษาแพทยศาสตร์ ล่มจมกันแน่..."
เนื่องจากชนชั้นปกครองของไทยก็มักจะมองประชาชนในลักษณะที่ว่า คนเหล่านี้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน มากกว่าประโยชน์ส่วนรวม รับเงินจากนักการเมือง คิดถึงแต่การเมืองท้องถิ่น ชอบนโยบายประชานิยม เลือกตั้งจนได้นายกรัฐมนตรีชื่อสมัคร สุนทรเวช ระบอบประชาธิปไตยไม่เหมาะกับคนไทย สิทธิเสรีภาพเป็นเรื่องของฝรั่ง การปกครองของคนไทยควรต้องมีผู้ชี้นำ การปล่อยให้ประชาชนตัดสินใจเอง เท่ากับปล่อยประเทศให้ล่มสลาย เป็นภัยต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์...
และเชื่อได้เลย ว่านักศึกษาแพทย์ส่วนหนึ่งย่อมไม่ต้องการวิธีเรียนแบบนี้ เพราะต้องอ่านหนังสือเองเป็นหลัก การให้คนอื่นมาพูดให้ฟังย่อมสะดวกสบายกว่า เหมือนกับอย่างที่คนไทยส่วนหนึ่งต้องการคืนอำนาจให้กับพระมหากษัตริย์ ยกเลิกการปกครองในระบอบประชาธิไตย...
อ้อๆ ลืมไปๆ พวกเราเป็นปัญญาชนนี่ การศึกษาแบบนี้แหละเหมาะสำหรับพวกเราแล้ว เพราะพวกเราไม่ใช่คนธรรมดา พวกเราเป็นผู้มีการศึกษา ย่อมมีความสามารถตัดสินใจ เลือกสิ่งที่ถูกต้องได้ด้วยตนเองอยู่แล้ว พวกเราจะต้องขยันเรียน มุ่งมั่นหาความรู้ เพื่อนำความรู้ที่ได้มาช่วยประชาชนต่อไป ต่อต่อไป...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น