วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551

แพทย์และนักกฎหมาย

วิชาแพทยศาสตร์ และนิติศาสตร์มีความเหมือนกันหลายอย่าง ทั้งในแง่เนื้อหา และแนวทางการปฏิบัติ หลังจากที่ผู้เขียนได้เรียนวิชานิติศาสตร์มาระยะหนึ่ง ผู้เขียนได้สังเกตและลองเปรียบเทียบลักษณะของสองวิชานี้ และพอจะสรุปความเหมือนกันของสองวิชาได้ดังนี้

ประการแรก ทั้งสองวิชาเป็นความรู้ที่ใช้ในการประกอบวิชาชีพเหมือนกัน ซึ่งทั้งสองวิชานี้เคยอยู่เคียงคู่กันในการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยตั้งแต่สมัยโรมัน (หรือสมัยกรีก? ไม่ทราบเหมือนกัน รู้แต่ว่าโบราณ) วิชาที่สามคือนักบวช ซึ่งอยู่ในลักษณะเทววิทยา ทุกวันนี้การศึกษาคณะแพทยศาสตร์ และนิติศาสตร์ในอเมริกาก็ต้องการวุฒิปริญญาตรีในการเข้าศึกษา ไม่ได้แยกตัวเป็นคณะต่างหากอย่างในประเทศไทย

ประการที่สอง เนื่องจากเป็นวิชาเฉพาะ ทั้งสองนี้จึงมีศัพท์เทคนิคที่คนภายนอกไม่อาจจะทำความเข้าใจด้วยพจนานุกรมได้ เวลาหมอพูดกับหมอ หรือนักกฎหมายพูดกับนักกฎหมาย คนทั่วไปย่อมฟังไม่รู้เรื่อง

ประการที่สาม ขึ้นชื่อว่าความรู้ ก็ต้องมีความรู้ทั่วไป และความรู้เฉพาะทาง ในทางการแพทย์ วิชาหลักของการแพทย์ตั้งแต่สมัยโบราณก็คือ อายุรศาสตร์ และศัลยศาสตร์ อย่างที่มีสุภาษิตโบราณของ Hippocrates ที่ว่า What drugs will not cure, the knife will ในขณะที่ทางกฎหมายก็มีสองวิชาหลัก คือ กฎหมายแพ่ง และกฎหมายอาญา นักศึกษาที่เรียนจบจากคณะทั้งสอง เบื้องต้นจะมีความรู้ทั่วไป ไม่เจาะจง เมื่อมาเรียนต่อความรู้ก็จะลงลึกมากขึ้น มากขึ้น จนมักมีปัญหาบ่อยๆเรื่องการเรียนที่ลึกเกินไปจนขาดการมองภาพรวม เช่น อายุรแพทย์มีการเรียนหลักสูตรต่อยอดเป็นแพทย์ระบบต่อมไร้ท่อ ระบบทางเดินหายใจ นักกฎหมายก็มีการเรียนต่อเฉพาะทางกฎหมายปกครอง กฎหมายลักษณะหนี้ ฯลฯ

เท่าที่ผู้เขียนนึกออก และเคยอ่านผ่านตาก็มีประเด็นอยู่สามประเด็นอย่างที่ได้กล่าวมาแล้ว ถ้านึกอะไรออกอีกจะมาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมอีก...

วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2551

นั่งคิด

เมื่อได้มีโอกาสนั่งคิด
ขณะนี้ผู้เขียนก็ได้็ทำตามความฝันไปส่วนหนึ่งแล้ว
-จบการศึกษาคณะแพทยศาสตร์
-ได้เรียนต่อเฉพาะทางสาขาที่ตัวเองใฝ่ฝันตั้งแต่เป็นนักศึกษาแพทย์คือ นิติเวชศาสตร์
-ได้เริ่มเรียนกฎหมายที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ความใฝ่ฝันอื่นๆที่กำลังตามมาก็ได้แก่
-ได้วุฒินิติศาสตร์บัณฑิต
-ได้เป็นหมอนิติเวชฯ
-ได้เป็นครูแพทย์
-ได้เขียนบทความทางวิชาการ
ฯลฯ

คิดๆดูมันก็น่าดีใจ
การได้มีโอกาสมานั่งคิด และชื่นชมชีวิตแบบนี้ ก็น่าดีใจ....
อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสนั่งเฉยๆแล้วย้อนมองอดีตจนมาถึงปัจจุบัน...จะได้ดีใจกัน...